บ้านสไตล์อิงลิชคอทเทจ เรียบง่ายสบายตา
บ้านสไตล์อิงลิชคอทเทจ (English Cottage) ดูบ้านสไตล์อิงลิชคอทเทจ (English Cottage) มีสวนงามคลาสสิคแบบอังกฤษเริ่มแรก สร้างบรรยากาศที่งามหน้าบ้าน มีปล่องควันที่สูงเด่นเป็นเอกลักษณ์
ฝาผนังบ้านภายนอกบอกถึงสไตล์คอทเทจได้อย่างแจ่มชัด โดยการนำกาบไม้มาสร้างลวดลาย Texture ที่งดงามให้กับบ้าน ให้ความรู้ความเข้าใจสึกเสมือนได้เข้าไปอยู่ในนิทาน สร้างบ้านสไตล์อเมริกัน
การตกแต่งด้านในของ บ้านสไตล์อิงลิชคอทเทจ (English Cottage) ข้างหลังนี้ผิดแผกอย่างสิ้นเชิงกับบรรยากาศภายนอก ภายในบ้านมองมีความหรูหราเลิศเลอสวย ฝาผนังบ้านเป็นสีเหลืองอ่อนๆตัดกับเพดาน และก็ประตูหน้าต่างสีขาวได้อย่างพอดี พื้นเมืองจะเป็นหลักไม้สีน้ำตาลแทบทั้งสิ้น สร้างบรรยากาศอบอุ่นให้กับบ้านได้อย่างดีเยี่ยม
บรรยากาศด้านในห้องรับแขก ห้องรับแขกของ บ้านสไตล์อิงลิชคอทเทจ (English Cottage) มีเตาผิงไฟสร้างความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาวแบบบ้านในเมืองหนาวทั่วๆไป มีโซฟาหนังสร้างความอบอุ่น คลาสสิคให้กับพื้นที่ด้านในห้อง
อีกหนึ่งบรรยากาศของ บ้านสไตล์อิงลิชคอทเทจ (English Cottage) ข้างหลังนี้ที่มีมุมนั่งพักผ่อน นั่งกินข้าว พร้อมด้วยดูสวนและก็บรรยากาศที่มีความชอบธรรมชาติ โต๊ะ เก้าอี้ รวมทั้งตะเกียงห้อยเก่าๆในแบบ Rustic ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้พื้นที่ที่ตรงนี้มองมีเสน่ห์อย่างน่าคลั่งไคล้เว้นแต่บรรยากาศที่สวยแล้ว
บางโอกาสเปิดมองตามหน้าวารสารตกแต่งบ้าน จะมีหนึ่งสไตล์ที่ถูกใจมากมาย ซึ่งก็คือ สไตล์อิงลิชคอทเทจ บ้านกระต๊อบสีขาวในบรรยากาศอบอุ่นของนอก อาณาเขตบ้านรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ จะว่าไปแล้วสไตล์อิงลิชคอทเทจ
จะมีความคล้ายคลึงกับสไตล์คันทรี่อยู่เช่นกัน เป็นการตกแต่งโดยเน้นย้ำอุปกรณ์จากธรรมชาติ และก็นำบรรยากาศอบอุ่นไปสู่ตัวบ้าน รวมถึงการใช้ของโบราณมาตกแต่งบ้าน แต่ว่าจะไม่เหมือนกันตรงที่จับความไม่สมบูรณ์ของอุปกรณ์เข้ามาตกแต่งให้มองมีเรื่องมีราวราว และก็เจือด้วยอารมณ์หวานๆสำหรับคนใดที่ถูกใจสไตล์นี้แบบเดียวกัน จะต้องไม่พลาดไอเดียที่พวกเราเอามาฝาก เพื่อนำไปปรับให้กับวิถีของตัวเอง พร้อมแล้วไปมองกันเลย
การเลือกเครื่องเรือนสำหรับ บ้านสไตล์อิงลิชคอทเทจ
การเลือกเครื่องเรือน ส่วนประกอบสำคัญสำหรับเพื่อการตกแต่งบ้านสไตล์คอทเทจ ได้แก่การใช้เครื่องเรือนหรือของตกแต่งที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกเก่า โดยเบื้องต้นพวกเราบางทีอาจหาเครื่องเรือนกลุ่มนี้ได้ตามร้านขายของโบราณ
ตลาดนัดมือสอง หรือแหล่งจำหน่ายต่างๆได้ และก็ยังรวมทั้งการนำส่วนประกอบเครื่องเรือนที่อยู่ในบ้านพวกเรามาเพิ่มสไตล์ลุคโบราณก้าวหน้า เหมือนกันกับห้องนี้ แม้ว่าจะอยู่ในเมืองกลับตกแต่งให้มีกลิ่นของชนทบ โซฟาหนังสีน้ำตาล ตัดด้วยหมอนอิงลายดอกสีไม่จัดจ้า แล้วเสริมความอบอุ่นด้วยการปูพื้นไม้แผ่นโชว์ผิวสัมผัสธรรมชาติ ถือว่าเป็นส่วนประกอบที่พอดี
โทนสีสบายตา สไตล์คอทเทจนั้นส่วนมากแล้วจะเลือกใช้เฉดสีขาวประสมประสานไปกับสีอื่นๆเพื่อกำเนิดความสบายตา ยิ่งเมื่อรวมกับสิ่งของธรรมชาติจะช่วยเพิ่มบรรยากาศบรรเทาเยอะขึ้นเรื่อยๆ อย่างไอเดียนี้ เลือกตกแต่งห้องรับแขกให้มีเพดานสูงโปร่ง โชว์คานไม้ และก็โคมระย้า สามารถเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นรวมทั้งความงามแบบคอทเทจได้ดิบได้ดี
ซ่อนเร้นด้วยกลิ่นอ่อนโยน หยุดสายตาด้วยของการแต่งบ้านให้มองอ่อนโยน ประสานความเป็นคอทเทจ ทดลองหาเครื่องเพชรพลอยให้กับมุมที่มักเป็นจุดศูนย์รวมสายตาด้วยของตกแต่งแบบเก่าเก็บ แจกัน โหล บ้านสไตล์คอทเทจ
เมื่อเอามาวางเอาไว้ภายในจุดที่แลเห็นได้ชัดสามารถสร้างเสน่ห์ที่สะดุดสายตาให้กับบ้านของพวกเราได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งของตกแต่งชนิดนี้พวกเราไม่มีความจำเป็นจำเป็นจะต้องไปเสียค่าใช้จ่ายที่สูงเสมอ สิ่งของในบ้านเป็นต้นว่า ผ้าปูโต๊ะสีขาวอุบาย เอามาแต่งแต้มบนโต๊ะทานอาหารสำหรับมื้อพิเศษ จับคู่กับหมอนอิง เพียงเท่านี้ก็แอบแฝงไปด้วยกลิ่นของสไตล์คอทเจทแล้ว
ของตกแต่งหลากสไตล์ ต้องมีเครื่องเรือนหรือของตกแต่งที่มีชีวิตชีวารวมทั้งลวดลายเข้าไปบ้างเพื่อเบรกความดิบของฝาผนังก้อนอิฐเปลือย พวกเราบางทีอาจใช้กรอบรูปงามๆภาพงานศิลปะ เครื่องถ้วยชามต่างๆหรือการเลือกใช้สีแล้วก็ภาพที่สือถึงธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ภาพของพืชพันธุ์เพื่อลดความแข็งแรงหยาบของสิ่งของด้านในห้อง
ความไม่เหมือนระหว่าง Cottage และก็ Vintage Style
- ผู้คนจำนวนมาก บางทีอาจจะงวยงงว่า ในความเป็นจริงแล้ว สองสไตล์นี้มีความต่างกันยังไง ด้วยเหตุว่าถ้าเกิดมิได้พินิจดีๆก็บางครั้งก็อาจจะแยกไม่ออก ซึ่งพวกเราจะมาแนะจุดพินิจกล้วยๆสำหรับการมองสไตล์การตกแต่งของ 2 รูปแบบนี้ ซึ่งสำหรับ Vintage Style จะเป็นการตกแต่งบ้านที่มองผ่องใส สบายๆสุภาพแบบสตรี ย้ำเครื่องเรือนและก็ของตกแต่งที่สร้างจากวัสดุเก่าๆมีลวดลาย ทรงนุ่มนวล งอนงาม เหมือนกับส่วนโค้งเว้าของหญิง สีสันจะออกไปทางพาสเทล ส่วน Cottage Style นั้นให้คิดเสมอว่าเป็นการตกแต่งบ้านแบบคันทรี่ เพราะว่าจะย้ำโชว์ผิวงานไม้ ซึ่งเป็นผิวงานดิบที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของลวดลายไม้ได้อย่างมาก มิได้ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงให้มีส่วนเว้าโค้งมากเท่าไรนัก สีสันจะเป็นแถว เอิร์ธโทน ช่วยมองอบอุ่น มองสบายตาขอรับ
Tips สำหรับการตกแต่งสไตล์ Cottage
บ้านที่ตกแต่งสไตล์คอทเทจโดยมากนิยมเลือกใช้สีโทนกึ่งกลางที่ดูอย่างเป็นธรรมชาติ หรือสีเอิร์ทโทน อย่างเช่น สีเบจ ขาว เทา ดำ น้ำตาล แล้วก็ครีม ฯลฯ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการนำวอลเปเปอร์เข้ามาช่วยเสริมให้ฝาผนังมองเด่น
ซึ่งลวดลายของวอลเปเปอร์นั้นชอบใช้เป็นลายดอกไม้ ลายผิวไม้ ซะจำนวนมาก สำหรับในการตกแต่งในลักษณะนี้สามารถสร้าง Pattern โดยการนำมาประสมประสานกับสไตล์อื่นๆได้อย่างนานัปการมากมายขอรับ
แต่ว่าสิ่งจำเป็นที่จะต้องพิจารณาก็คือการ Mix and Match นั่นเอง โดยพวกเราควรจะมองว่าสีใช้มีความเข้ากันได้มากน้อยแค่ไหน เป็นต้นว่า English cottage มักนิยมดึงสีชมพูหรือเขียวเข้ามาใช้สำหรับการตกแต่ง ในส่วนของลวดลายชอบใช้ลายดอกไม้เข้ามามีส่วนร่วมก็ทำให้การตกแต่งมองกระจ่างแจ้งและก็พอดีเพิ่มมากขึ้นขอรับ สำหรับ Rustic cottage
จะเป็นงานไม้แล้วก็เหล็กที่เอามาประสมประสานกัน เครื่องเรือนที่ทำมาจากไม้ที่มองหยาบๆเลือกใช้สีเขียว สีทองคำ สีสนิมเพื่อความพอดี รวมทั้ง Beach cottage จะเน้นย้ำการแต่งด้วยโทนสีที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกถึงสมุทร อย่างสีฟ้าอ่อนๆหรือสีของทราย แล้วก็มีการนำสีขาวเข้ามาเป็นส่วนประกอบร่วมซึ่งจะก่อให้บรรยากาศภายบ้านมองแจ่มใสสบายตา
ไม้จะเป็นถูกจัดว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของบ้านสไตล์นี้ โดยยิ่งไปกว่านั้นสิ่งของที่เลือกมาตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะเป็น กรอบรูปไม้ กระถางใส่ต้นไม้ รวมทั้งเครื่องเรือนต่างๆควรที่จะทำการเลือกใช้อุปกรณ์ที่เป็นไม้ที่ไม่ผ่านการทาสี หรือฉาบแลคเกอร์ ให้เน้นย้ำไปที่ผิวสัมผัสที่จริงจริงของธรรมชาติเป็นหลักเพื่อสร้างบรรยากาศให้บ้านไม่มองแต่งมากเกินไปครับผม
พื้นส่วนใหญ่จะย้ำความธรรมดา ไม่เป็นทางการ ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นพื้นไม้นี่แหละขอรับ แต่ว่าถ้าหากเป็นไม้ที่มองใหม่เกินความจำเป็นบางทีอาจจะใช้แนวทางการลงสีให้ไม้มองเก่าลงก็ได้ครับผม ส่วนเรื่องความเข้มของสีไม้ อันนี้สุดแท้แต่ความชื่นชมของแต่ละคน สำหรับพื้นที่ใช้สอยของบ้านสไตล์นี้ มิได้มีการแบ่งส่วนพื้นที่ให้แยกออกมาจากกันกระจ่างแจ้งนัก ดังนี้ก็เพื่อสามารถแลเห็นข้างในรอบๆของบ้านได้อย่างทั่วถึง ทั้งยังให้ความรู้ความเข้าใจสึกที่อบอุ่นอีกด้วยครับผม
สำหรับ หน้าต่าง ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหลักโดยยิ่งไปกว่านั้นการเลือกผ้าม่าน ซึ่งมีแบบอย่างที่นานัปการ โดยหลักการใช้สี หรือลวดลายของผ้าม่านนั้นจะคิดถึงสีของผนังแล้วก็เครื่องเรือนในห้องเป็นหลัก อาทิเช่น ฝาผนังสีครีมที่มองตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสีขาว เสนอแนะให้เลือกใช้ผ้าม่าน สีครีม สีน้ำตาล หรือสีเบจ เพื่อเป็นไปในแนวทางแนวเดียวกัน ส่วนม่านที่นิยมใช้ก็จะมี
ม่านจีบรางโชว์ – มีเอกลักษณ์ที่การจับหัวผ้าม่านข้างบน เป็นจีบเล็กๆ3 จีบ ทำให้มองงาม ส่วน รางผ้าม่านจีบ นั้น จะมีรางให้เลือกใช้ 2 แบบหมายถึงรางอลูมินัม รวมทั้งรางโชว์ นับว่าเป็นลู่ทางที่ดีกับบ้านสไตล์ cottage นะครับ
ม่านพับเยื่อธรรมชาติ – สะดุดตาที่มีรูรับแสงสว่างทำให้แสงสว่างส่องผ่านเข้ามาในบ้านได้ดิบได้ดี ทำให้บ้านไม่มืด เหมาะแก่การนำมาติดเอาไว้ภายในห้องรับแขกเนื่องจากว่าจะก่อให้มีแสงสว่างไว้ใช้ในตอนกลางวัน
ม่านพับ – ม่านพับจะเป็นม่านที่ใช้รอคอยกสำหรับในการดึงผ้าจากข้างล่างขึ้นข้างบนแตกต่างจากที่บังตา โดยจะพับทบไปๆมาๆ ลักษณะการพับจะเป็นชั้นเรียงทับกันขึ้นไป มีคุณลักษณะเด่นหลายประการ อีกทั้งใช้งานง่าย สบาย แข็งแรง รวมทั้งทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย
ม่านลอน – บางทีอาจดูอย่างกับว่ากับม่านจีบรางโชว์ แต่ว่าไม่ราวกับซะทีเดียวขอรับ โดยให้พิจารณากล้วยๆตรงแถวๆหัวผ้าม่านข้างบนมิได้เย็บเป็นจีบไว้ แม้กระนั้นจะปลดปล่อยให้โค้งตามธรรมชาติ ซึ่งนับว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ ผ้าม่านลอน ขอรับ
ของใช้สำหรับเพื่อนำมาใช้ตกแต่งบ้านก็นับว่าเป็นเสน่ห์ที่สามารถช่วยให้การตกแต่งบ้านสไตล์ cottage มองชวนชมเพิ่มมากขึ้นขอรับ ซึ่งของที่เอามาเสริมแต่งก็ชอบเป็นอะไรที่ดูอย่างเป็นธรรมชาติ ผิดปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงเท่าไรนักเพราะว่าพวกเราเน้นย้ำความสบายตาหลัก บียอนก็เลยขอยกตัวอย่างมาให้เห็นภาพกล้วยๆตัวอย่างเช่น
ประพรม การปูพรมบนพื้นเรียบนับเป็นอีกไอเดียที่เหมาะกับบ้านสไตล์ cottage เพราะว่าโดยมากประพรมจะถูกใช้ปูรอบๆห้องรับแขก ซึ่งเว้นแต่ความสวยสดงดงามนุ่มนวลแล้ว ประพรมยังเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านมองเป็นสัดโดยมากขึ้นด้วยนะครับ
เตียงเหล็กดัด ก็เป็นของอีกชิ้นหนึ่งที่เป็นช่องทางที่ดี สำหรับใครกันแน่ที่เบื่อกับการตกแต่งไม้เยอะเกินไป เตียงเหล็กดัดก็เลยนับว่าเป็นคำตอบที่ดี โดยกลิ่นและก็ความรู้สึกก็ยังคงให้ความอบอุ่น มองโปร่งสบาย
ดอกไม้สด อันนี้เป็นเนื้อหานิดๆหน่อยๆที่ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดเนื่องจากว่าดอกไม้สด จะมีผลให้บ้านสไตล์ cottage มองสดชื่น นับได้ว่าเป็นเสน่ห์ที่ยังคงใช้ได้จนถึงทุกวันนี้ ของเสริมแต่งอื่นๆได้แก่ ถ้วยชาม สิ่งกลุ่มนี้บางครั้งอาจจะมิได้ถูกใช้เฉพาะเวลากินอาหารเพียงแค่นั้น แต่ว่ายังสามารถนำออกมาโชว์ได้ด้วย ชี้แนะให้เลือกเป็นเซทที่มองสวยสดงดงาม โดยบางทีก็อาจจะหามุมวางเพื่อมองเป็นสัดส่วน หรือบางครั้งอาจจะวางอยู่รอบๆชั้นวางสิ่งของในห้องครัวก็ทำให้น่ามองมากขึ้นเรื่อยๆครับผม
*โดยเหตุนั้น Cottage Style ก็เลยถือได้ว่าเป็นการตกแต่งบ้านที่บางครั้งอาจจะมิได้มีดีเทลที่มองยุ่งยากเท่าไรนัก เพราะเหตุว่ามีรูปทรงที่มีความกระชับ เป็นการตกแต่งที่พร้อมใช้งาน และก็ให้รู้สึกดีและผ่อนคลายแล้วก็อบอุ่นเมื่อได้อาศัย สำหรับคนไหนกันแน่ที่ต้องการทดลองปรับบ้านให้เป็น Cottage Style อาจจะเริ่มต้นจากการหาของตกแต่งเล็กๆมาทดลองทำอย่างที่บอกไว้เบื้องต้นดูกรก็ได้ครับผม แล้วก็หากว่าคุณเริ่มรู้สึกหลงใหลสไตล์นี้ขึ้นมาขณะใด ค่อยขยับขยายการตกแต่งให้ใหญ่ขึ้นก็ไม่เสียหายอะไรครับผม
อ่านต่อเพิ่มเติม: Pool Villas Pasak . sale villa . Phuket Villa. Pool Villa. พูลวิลล่าภูเก็ต. โครงการบ้านภูเก็ต. บ้านจัดสรร. พูลวิลล่าภูเก็ต ราคาถูก. ซื้อวิลล่าภูเก็ต