7 วิธีสุดชาญฉลาดทำให้ บ้านกลิ่นหอม อุ่นเหมือนอบขนม ว่ากันว่าหากอยากทำให้บ้านน่าอยู่ รู้สึกอบอุ่น หรือโฮมมี่ การมีกลิ่นอบขนมหอมคละคลุ้งอยู่ในบ้านนั้นช่วยได้ แต่ถ้าเราไม่ได้อบขนมเป็นประจำ หรือทำขนมไม่เป็น จะทำอย่างไรให้บ้านมีกลิ่นหอมอุ่นเหมือนอบขนม
วิธีสุดชาญฉลาดทำให้ บ้านกลิ่นหอม อุ่นเหมือนอบขนม
- เติมกลิ่นในกาแฟ วิธีที่ละเอียดอ่อนในการนำกลิ่นหอมอบอุ่นเครื่องเทศไม่ว่าจะเป็นการโรยอบเชยลูกจันทน์เทศ โป๊ยกั๊ก ขิงลงไปในกาแฟก่อนจะชง
- หยดสารสกัดวานิลลาบนก้อนสำลี วิธีนี้เหมือนเครื่องกระจายกลิ่นขนาดเล็ก หรือจะนำห่อบุหงาวางลงในชามขนาดเล็ก วางก้อนสำลีที่เหยาะน้ำมันหอมระเหยไว้หลังม่าน รวมไปถึงบริเวณอื่นๆที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็น ขอเพียงเก็บให้พ้นทางเด็ก หรือสัตว์เลี้ยง ก็จะช่วยให้บ้านมีกลิ่นหอม >> แนะนำ วิลล่าภูเก็ต
- อบเชยสัก 2-3 ชิ้น ไม่ว่าคุณจะซื้ออบเชยมาเป็นถุง หรือมีอยู่ติดบ้านเพียงเล็กน้อย อบเชยก็สามารถทำให้บ้านของคุณมีกลิ่นของคุกกี้ได้
- ทำน้ำยาดับกลิ่นพรมด้วยตัวคุณเอง เบกกิ้งโซดาเป็นส่วนผสมพื้นฐานของสูตรกำจัดกลิ่นบนพรม การใส่อบเชยลงในส่วนผสม แล้วสเปรย์บนพรมของคุณ จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมงก่อนจะดูดฝุ่นออก ถูพื้นบ้านให้เงา
- DIY ธูปอบเชย วิธีการทำคือผสมซินนามอนกับน้ำลงในแป้ง แล้วอบ ระหว่างที่อบบ้านก็จะมีกลิ่นหอมอบเชยไปด้วย
- อบสารสกัดวานิลลา เติมกลิ่นคล้ายการอบคุกกี้สีน้ำตาลไว้ในบ้านของคุณด้วยการอบสารสกัดวานิลลา 2 ช้อนโต๊ะในชาม
- เคี่ยวผลไม้และเครื่องเทศ สร้างกลิ่นหอมของแอปเปิลโดยการเคี่ยวผลไม้ในน้ำกับอบเชย โป๊ยกั๊ก กานพลู และเปลือกส้มเล็กน้อย
วิธีทำให้ห้องหอมสดชื่น จนอยากนอนอยู่บ้านทั้งวัน
● วิธีทำให้ห้องหอมที่ได้ประสิทธิภาพจะต้องทำประกอบกันหลายวิธี ตั้งแต่การระบายอากาศ, เพิ่มอากาศหมุนเวียนในห้อง, ดับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และเพิ่มกลิ่นหอมจากไอเทมต่าง ๆ อย่างเทียนหอม ก้านไม้หอม และปลั๊กน้ำหอม เป็นต้น
● เทคนิคทำให้ห้องหอมสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น ทำความสะอาดห้อง, ทิ้งขยะ, ใช้เครื่องฟอกอากาศ, เปิดหน้าต่างระบายอากาศ, ใช้พัดลมหมุนเวียนอากาศ, ใช้ไอเทมดับกลิ่น, ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มชุบสำลี, จุดเทียนหอม, ใช้ก้านไม้หอม และปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ เป็นต้น
12 วิธีทำให้ห้องหอมสดชื่น จนอยากนอนอยู่บ้านทั้งวัน
1. ทำความสะอาดห้องเป็นประจำ
เรื่องเบสิกที่สุดและจำเป็นที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยให้ห้องดูสะอาดตาสะอาดใจแล้ว ยังช่วยทำให้บรรยากาศในห้องดูปลอดโปร่งมากขึ้น ซึ่งถ้าใครเวลาว่างน้อยก็สามารถเลือกทำวันละนิด แต่ถ้าใครยุ่งมากจนไม่มีเวลาทำความสะอาดห้องเองจริง ๆ ก็สามารถเรียกใช้บริการแม่บ้านออนไลน์ได้เหมือนกัน
2. เก็บขยะทิ้งเป็นประจำ
ขยะถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้าน ดังนั้นวิธีทำให้ห้องหอมอีกวิธีคือต้องหมั่นเอาขยะไปทิ้งบ่อย ๆ เนื่องจากขยะเป็นแหล่งของกลิ่นและเชื้อโรคจำนวนมากโดยเฉพาะขยะเปียก ซึ่งถ้าใครอยากทำให้ห้องหอมทางที่ดีควรทิ้งขยะทุกวันและเลือกใช้ถังขยะแบบที่มีฝาปิด เพื่อกลบไม่ให้กลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง
3. ใช้เครื่องฟอกอากาศ
ด้วยปัญหามลภาวะในปัจจุบันทำให้แต่ละบริษัทคิดค้นและพัฒนาเครื่องฟอกอากาศให้ตอบโจทย์ได้มากที่สุด ซึ่งเครื่องฟอกอากาศในยุคนี้นอกจากจะสามารถกรองสารพิษหรือฝุ่น PM2.5 ในอากาศได้แล้ว ยังสามารถกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในบ้านของเราได้อีกด้วย ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้ห้องหอมสะอาดแบบสุด ๆ
4. เปิดหน้าต่างระบายอากาศ
บ้านไหนมีห้องที่ไม่มีหน้าต่างจะรู้เลยว่า เวลาเดินเข้าห้องทีไรกลิ่นอับจะตีเข้าหน้าทุกที ดังนั้นถ้าใครไม่อยากให้ห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอับจะต้องหมั่นเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศบ่อย ๆ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยกำจัดกลิ่นอับในห้องได้ แต่เป็นวิธีทำให้ห้องหอมที่ใช้ได้กับห้องที่มีหน้าต่างเท่านั้น สำหรับห้องที่ไม่มีหน้าต่าง จะต้องเจาะกำแพงเพื่อทำหน้าต่าง ติดพัดลมระบายอากาศ หรือใช้ไอเทมอื่นช่วยแทน
5. ใช้พัดลมหมุนเวียนอากาศ IRIS OHYAMA
ก่อนจะใช้ตัวช่วยเพิ่มกลิ่นหอมต่าง ๆ ต้องทำให้อากาศในห้องถ่ายเทและหมุนเวียนให้ดีซะก่อน ด้วยการใช้ไอเทมสุดเจ๋ง อย่างพัดลมหมุนเวียนอากาศ IRIS OHYAMA ที่มีลักษณะลมพุ่งออกมาแบบเป็นเกลียว บวกกับความแรงที่ทรงพลัง ทำให้สามารถส่งลมออกไปได้ไกลกว่าพัดลมแบบปกติ แถมยังมีองศาการหมุนสุดพิเศษที่ช่วยให้อากาศภายในห้องไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
6. ใช้อุปกรณ์ช่วยดับกลิ่น
วิธีทำให้ห้องหอมแบบขั้นสุด นอกจากจะต้องระบายอากาศในห้องแล้ว ก็ต้องใช้ไอเทมดี ๆ ที่ช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างเช่น กลิ่นอับ กลิ่นอาหาร หรือกลิ่นสัตว์เลี้ยง ด้วยการใช้อุปกรณ์ดับกลิ่นใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็น น้ำส้มสายชู เปลือกส้ม มะกรูด และตะไคร้ วางไว้บริเวณมุมห้อง เพื่อดูดกลิ่นต่าง ๆ ให้หายไปนั่นเอง
7. ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มชุบสำลี
วิธีทำให้ห้องหอมฟุ้งที่ทุกคนคิดไม่ถึง ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายมาก ๆ ทุกบ้านทำตามได้แน่นอน เพียงแค่เอาน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นโปรดมาเทใส่ถ้วยเล็ก ๆ จากนั้นให้เอาสำลีก้อนใส่ลงไปเล็กน้อย เพื่อช่วยให้น้ำยาปรับผ้านุ่มอยู่ได้นาน ๆ ไม่แห้งเร็ว แล้วนำไปวางตามมุมห้องที่ต้องการ และถ้าน้ำยาเริ่มแห้งก็แค่เอาน้ำยาตัวเดิมมาเติม ห้องของคุณก็จะกลับมาหอมสะอาดอีกครั้ง
8. จุดเทียนหอม
วงการเทียนหอมเป็นอีกหนึ่งวงการที่เข้าปแล้วออกยากมาก ๆ เพราะเป็นไอเทมทำให้ห้องหอม แถมยังช่วยสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันแต่ละยี่ห้อก็ทำเทียนหอมออกมาแข่งกันสุดฤทธิ์ มีตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงราคาแพง โดยเทียนหอมแต่ละแบรนด์ก็มีกลิ่นให้เลือกเยอะแยะมากมายตามความชอบ
9. ใช้ก้านไม้หอม
ไอเทมที่หลายคนคุ้นเคยกันดี เจอได้บ่อยตามร้านสปาทั่วไป รวมถึงห้องน้ำในห้างหรู ๆ ก็มักจะเลือกใช้วิธีนี้เหมือนกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีทำให้ห้องหอมที่หลายคนหลงรัก เพราะให้ฟีลลิงเหมือนนั่งอยู่ในร้านสปาร้านโปรด แถมยังเป็นไอเทมที่เหมาะกับการแต่งบ้านอีกด้วย ซึ่งในยุคนี้ก็มีก้านไม้หอมให้เลือกมากมายตั้งแต่ราคาหลัก 100 ไปจนถึงหลัก 1000
10. ใช้สเปรย์ปรับอากาศ
เป็นวิธีทำให้ห้องหอมฟุ้งที่ง่ายที่สุด เพราะเป็นไอเทมที่หาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป รวมถึงตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ แต่เป็นวิธีทำให้ห้องหอมเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะกลิ่นมักจะอยู่ไม่นานเท่าไอเทมอื่น ๆ แต่จะมาพร้อมกลิ่นหอมที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นกุหลาบ และกลิ่นเลมอน เป็นต้น
11. ใช้ปลั๊กน้ำหอม
สำหรับใครที่รู้สึกว่าไอเทมอื่น ๆ กลิ่นไม่ค่อยกระจายตัวหรืออยู่ไม่ค่อยนาน แนะนำให้ลองหันมาใช้ปลั๊กน้ำหอมแทน ด้วยคุณสมบัติของปลั๊กที่จะทำความร้อนเพื่อทําปฏิกิริยากับน้ำหอมที่อยู่ภายในขวดให้ระเหยออกมา ซึ่งจะได้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง แถมกลิ่นที่ได้จากปลั๊กน้ำหอมยังอยู่ได้นานหลายเดือนอีกด้วย
12. ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ
สายเขียวต้องเลิฟวิธีทำให้ห้องหอมวิธีนี้ เพราะนอกจากต้นไม้ฟอกอากาศจะช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ในบ้านได้แล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลายได้อีกด้วย ไม่ว่าจะมองไปทีไรก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที แถมยังมีต้นไม้มงคลที่มาพร้อมคุณสมบัติฟอกอากาศ อย่างเช่น ต้นว่านเศรษฐีเรือนใน ที่ช่วยฟอกอากาศและเสริมดวงในเรื่องโชคลาภได้ในต้นเดียว