เคล็ดลับ ถูพื้นบ้านให้เงา ไม่เหนียวเท้า หอมนานแบบไม่ต้องถูบ่อย

ถูพื้นบ้านให้เงา หลายคนประสบปัญหาถูบ้านแล้วพื้นไม่เงา แถมผ่านไปไม่นานพื้นกลับมาเหนียว เวลาเดินก็ไม่ค่อยสบายเท้า และที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยยิ่งขึ้นไปอีกก็เมื่อผ่านไปเพียงไม่กี่วันก็ต้องกลับมาถูซ้ำอีกแล้ว เราจึงมีเทคนิคดีๆ มาฝาก ที่ทำให้พื้นบ้านเงา ไม่เหนียวเหนอะเท้า วิลล่าภูเก็ต แถมยังมีกลิ่นหอมนานแบบไม่ต้องถูบ่อย

วิธี ถูพื้นบ้านให้เงา ไม่เหนียวเท้า หอมนาน

1.ไม้ถูพื้นที่สะอาด
2.ถังน้ำ
3.น้ำส้มสายชู
4.น้ำยาปรับผ้านุ่ม
5.เกลือ

วิธีทำ

1.นำน้ำใส่ในกระป๋อง หรือถังน้ำ
2.เทน้ำส้มสายชูลงไป
3.เหยาะเกลือเล็กน้อย
4.ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม
5.นำผ้าถูพื้นลงไปแล้วบิดให้แห้งจากนั้นนำมาถูพื้นบ้าน

เคล็ดลับ : เกลือช่วยทำให้พื้นบ้านไม่เหนียว ส่วนน้ำส้มสายชูช่วยให้พื้นบ้านเป็นเงา น้ำยาปรับผ้านุ่มทำให้พื้นห้องมีกลิ่นหอม

ถูพื้นบ้านให้เงา

เทคนิคซักผ้าห่ม สะอาด นุ่มฟู ไร้กลิ่นอับ ตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น

ช่วงอากาศกลับมาเย็นอีกครั้ง หลายบ้านอาจไม่ทันตั้งตัว รีบรื้อเอาผ้าห่ม ผ้านวมออกมาทำความสะอาด แต่หลังจากเก็บเอาไว้ในตู้ กล่องเก็บนานทำให้ผ้าห่มมีกลิ่นเหม็นอับและแฟบ วันนี้เรามีเทคนิคซักผ้าห่มให้สะอาด นุ่มฟู ไร้กลิ่นอับตามแบบฉบับคนญี่ปุ่นมาฝาก ก่อนอื่นให้สังเกตสัญลักษณ์การดูแลรักษาบนผ้าห่ม หรือผ้านวม โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้น้ำยาซักผ้าชนิดน้ำ เพราะสามารถซัก แช่ และล้างออกได้ง่ายเหมาะ สำหรับซักผ้าเนื้อหนาอย่างผ้าห่ม

วิธีซักผ้าห่มให้สะอาดแบบคนญี่ปุ่น

1.แยกซักผ้าห่ม กับเสื้อผ้าอื่นๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
2.ใช้น้ำอุ่นอุณหภูมิประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส ช่วยกำจัดเชื้อโรคและไรฝุ่นได้ดี
3.เวลาพับผ้าห่มไปซัก ให้ใช้วิธีม้วนแทนการใส่ผ้าห่มลงในเครื่องซักผ้าทั้งผืน หากผ้าห่มมีคราบสกปรกให้ม้วนโดยให้ด้านที่มีคราบอยู่ด้านนอก
4.วางผ้าห่มในแนวตั้ง ทั้งนี้เพื่อให้ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก ไอเดียจัดสวน

วิธีซักผ้าห่มในเครื่องซักผ้า

1.จัดวางผ้าห่มลงในเครื่องซักผ้า โดยให้ด้านที่มีคราบสกปรก อยู่ใกล้หัวเครื่อง เพื่อให้โดนแรงน้ำมากที่สุด
2.เลือกโปรแกรมซักผ้าห่ม หรือของชิ้นใหญ่
3.จากนั้นเติมน้ำยาซักผ้าชนิดน้ำ ร่วมกับน้ำยาขจัดคราบ หากต้องการความนุ่มให้เติมน้ำยาปรับผ้านุ่ม

วิธีตากผ้าอย่างถูกวิธี ทำอย่างไรช่วยลดรอยยับ

เมื่อซักผ้าแล้วสิ่งที่เราพบคือการนำเสื้อผ้าออกมาแล้วพบว่าเสื้อผ้าเหล่านั้นหด แม้ว่าเราต้องการให้เสื้อผ้าเหล่านั้นเรียบ ไร้รอยยับ มันก็ไม่ง่าย และเพื่อให้เสื้อผ้าของคุณไร้รอยยับ ด้วยการตากผ้า สามารถทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพราะนี่คือวิธีตากผ้าอย่างถูกวิธี ที่ช่วยลดรอยยับของเสื้อผ้าได้

1.อย่าใส่เสื้อผ้าลงในเครื่องซักผ้ามากเกินไป สำหรับเทคนิคการทำให้เสื้อผ้ามีรอยยับลดลง ส่วนหนึ่งควรเริ่มต้นตั้งแต่การไม่ใส่เสื้อผ้าลงไปใน เครื่องเป็นจำนวนมากเกินไป เพราะการเหลือพื้นที่ให้เสื้อผ้ามีการเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างการซักจะช่วยลดโอกาสการทำให้เสื้อผ้าบิดตัวเข้าหากันและทำให้เกิดรอยยับ

2.เติมน้ำยาปรับผ้านุ่ม วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มกลิ่นหอม ให้กับเสื้อผ้าของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยยับบนเนื้อผ้าอีกด้วย

3.เติมน้ำส้มสายชูขาว การเติมน้ำส้มสายชูขาว 1 ถ้วยลงในรอบการซัก น้ำส้มสายชูจะช่วยคลายรอยยับ และไม่ทิ้งกลิ่นไว้ภายหลัง

4.นำเสื้อผ้าของคุณออกจากเครื่องทันทีหลังซัก การทิ้งผ้าเปียกที่มัดรวมกันไว้ในเครื่องซักผ้าจะทำให้เกิดรอยยับ ดังนั้นการนำเสื้อผ้าขึ้นตากในทันทีจึงเป็นสิ่งแนะนำ

5.สะบัดเสื้อผ้าก่อนแขวน การสะบัดเสื้อผ้าก่อนแขวนสามารถลดรอยยับที่จะเกิดขึ้นได้ และหลังแขวนเสื้อผ้าแล้วให้ใช้มือดึงผ้าเบาๆ เพื่อขจัดรอยยับในขณะที่เสื้อผ้ายังเปียกอยู่

คู่มือคุณแม่บ้าน ตากผ้าแต่ละประเภทอย่างไรให้ถูกต้อง

งานตากผ้าหลายคนคิดว่าไม่ใช่งานยาก ก็แค่เอาผ้าออกจากเครื่องซักผ้าแล้วหนีบ ใส่ไม้แขวนนำขึ้นตาก เพียงเท่านั้นเป็นอันจบ แต่เดี๋ยวก่อน อย่าลืมว่าผ้าที่เราสวมใส่มีหลายประเภท การตากผ้าแต่ละประเภทย่อมมีความแตกต่างกันตามลักษณะเนื้อผ้า ขอเสนอวิธีตากผ้าที่จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน

  1. ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน
    สามารถใช้วิธีอบเพื่อให้ผ้าแห้ง หรือตากบนราวก็ได้เช่นกัน
  2. ผ้ายีนส์
    หลายคนอาจเคยชินกับการนำกางเกงยีนส์พาดกับราวเพื่อตาก แต่นั่นเป็นวิธีที่ผิดเพราะจะทำให้เนื้อผ้าและกางเกงเสียทรง วิธีในการตากผ้ายีนส์ที่ถูกต้องคือการนำกางเกงยีนส์ ใส่ไม้แขวน แล้วหนีบส่วนที่เป็นเอวกางเกงไว้กับไม้แขวน ปล่อยขากางเกงทั้งสองข้างห้อยลงมา
  3. ผ้าคอตตอน
    หรือเสื้อผ้าประเภทเสื้อยืดที่ควรนำไม้แขวนเสื้อชนิดไหล่ใหญ่ มาแขวนเพราะจะช่วยทำให้เสื้อผ้าบริเวณตรงหัวไหล่ไม่เสียทรง
  4. ชุดชั้นใน ผ้าเนื้อบาง
    ปกติป้ายที่ติดมากับชุดชั้นในจะระบุวิธีการดูแลรักษาเสื้อผ้าหรือชุดนั้นๆ อยู่แล้ว ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดการดูแล การตากของชุดชั้นใน เหล่านั้นว่าสามารถแขวน หรือตากในแนวราบก็ได้
  5. ผ้าไหมถักอะคริลิก
    ผ้าไหมเป็นผ้าที่ต้องทะนุถนอมใส่ใจในการดูแล ค่อนข้างมาก ขนาดเวลาตากยังแนะนำไม่ให้ใส่ไม้แขวน แต่ให้ตากแห้งในแนวราบแทน
หมดกังวลกับปัญหาผ้าอับชื้น ตากผ้าได้แม้หน้าฝนมาเยือน

หมดกังวลกับปัญหาผ้าอับชื้น ตากผ้าได้แม้หน้าฝนมาเยือน

ทำให้ต้องทิ้งเสื้อผ้าตัวโปรดไปอย่างน่าเสียดาย เพื่อกำจัดปัญหาเหล่านี้ เราลองมาดูวิธีดูแลผ้าที่จำเป็นต้องตากในหน้าฝน ว่าจะมีทางออกอย่างไรในการป้องกันกลิ่นอับชื้นกันได้บ้างดีกว่าค่ะ

เลือกผงซักผ้าที่ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย

ช่วงหน้าฝน เป็นช่วงที่ผ้าจะมีโอกาสโดนความชื้นมากกว่าโดนแดด การป้องกันกลิ่นอับแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และต้นตอของกลิ่นอับส่วนใหญ่ก็มาจากเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นการเลือกซื้อผงซักฟอกชนิดพิเศษ เพื่อลดการก่อตัวของเชื้อเหล่านี้ แม้ผ้าจะเปียกชื้นเป็นเวลานานก็จะส่งผลให้โอกาสในการเกิดกลิ่น อับมีได้น้อย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อช่วยคุณพ่อบ้านแม่บ้าน ทั้งหลายตากผ้าในที่ร่มได้อย่างไร้กังวล

อย่าลืมปั่นหมาดเมื่อซักเครื่อง

เพื่อให้ผ้าแห้งได้ไวขึ้น ลดการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรีย การใช้เครื่องซักผ้าในช่วงหน้าฝนจึงเป็นสิ่งจำเป็น ด้วยขั้นตอนสุดท้ายในการปั่นหมาด ช่วยกำจัดความชื้นออกจากผ้า ไม่ว่าจะตากในช่วงที่แดดน้อยหรือตากในบ้านก็ทำให้ผ้าแห้งได้ดีกว่าการบิดด้วยมือ ดังนั้นหากไม่เป็นการทำลายเนื้อผ้า การใช้เครื่องซักผ้าบ้าง เป็นครั้งคราวในช่วงที่ดูเหมือนฝนจะตกก็จะช่วยลดปัญหากับการตากผ้าลงไปได้อย่างมากเลยทีเดียว

พัดลมอีกหนึ่งตัวช่วยให้ผ้าแห้ง

ฝนตกนอกบ้านจนไม่สามารถตากผ้าได้ แม้จะตากในร่มแต่กลับไม่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ทำให้โอกาสที่ผ้าจะแห้งไวเป็นไปได้ยาก เพื่อเป็นการช่วยลดระยะเวลาตากผ้า พัดลมเป็นตัวช่วยที่ดีอีกหนึ่งทางเลือก ช่วยให้อากาศในห้องถ่ายเท ได้สะดวก โดยการเป่าพัดลมไปที่ผ้าโดยตรง หากมีจำนวนผ้ามากให้เลือก เป็นแบบส่ายและเปิดเบอร์แรงสุด และอย่าลืมกระจายผ้าไม่ให้ชิดกันในขณะตาก เพียงแค่นี้ก็ลดเวลาให้ผ้าแห้ง ได้แม้อยู่ในร่ม แบบไร้ปัญหากลิ่นอับชื้นและเชื้อราอย่างง่ายๆ เพียงแค่นี้ปัญหาผ้าอับชื้นใน หน้าฝนก็หมดไป ไม่ว่าจะซักผ้าในช่วงเวลาไหนก็ลดปัญหาอันน่าปวดหัวลงไปได้อย่างมากมาย แต่อย่าลืมว่าการตาก ผ้ากลางแจ้งให้โดนแดดและมีอากาศถ่ายเท ได้สะดวกนั้น